Page 98 - Skd 298-2552-12
P. 98

โ ค ร ง ก า ร   “ เ รื่ อ ง เ ล ่ า จ า ก ลู ก ที่ ก ้ า ว พ ล า ด ”

   เวลาของความยากลำ� บากอดมอื้ กนิ มอ้ื ผา่ นลว่ งเลยไปเปน็                   แหง่ หนงึ่ ยา่ นดอนเมอื ง เพอื่ นของเขาทกุ คนใสเ่ สอื้ ชอ็ ป (เสอ้ื ชอ็ ป
๑๐ ปี จนหนุ่มน้อยเติบโตเข้าสู่วัยรุ่น ไม่นานนักครอบครัวของ                    หรือเสื้อสกรีน เป็นเส้ือท่ีเด็กอาชีวะรักย่ิงกว่าชีวิตของตนเอง)
ตั้มก็ประสบความสำ� เร็จในชีวิต แม่เปิดร้านโชห่วยหรือท่ีสมัยนี้                พวกเขายนื ดดู บหุ รพ่ี น่ ควนั ปยุ๋ ...ปยุ๋ ...โดยทไี่ มส่ นใจผคู้ นรอบขา้ ง
เรยี กกนั วา่  “รา้ นขายของชำ� ”  สว่ นพอ่ มรี า้ นซอ่ มรถจกั รยานยนต์        วา่ จะมองด้วยสายตาอยา่ งไร หรือคดิ วพิ ากษ์วจิ ารณ์อยา่ งไร
เลก็ ๆ บรเิ วณหนา้ บา้ นเปน็ ของตนเอง ทกุ คนในครอบครวั พอใจ
ในส่ิงท่ีเป็น พอใจกบั ความเปน็ อย่ขู องตนเอง                                     ยง่ิ กวา่ ในหนงั  ทกุ คนมอี าวธุ ครบมอื  ไมว่ า่ จะเปน็ มดี ดายหญา้
                                                                              ผ่าแตง สปาร์ตา มีดอย่างอ่ืนอีกสารพัดชนิด ปืน ระเบิดขวด
   แม้ว่าฐานะทางบ้านจะดีขึ้น แต่ความรักความอบอุ่น                             ด้วยวัยที่คึกคะนอง พวกเด็กเหล่าน้ันไม่รู้เลยว่า...อีกไม่กี่นาที
ภายในครอบครวั กไ็ มเ่ คยลดนอ้ ยลงไปเลย ทง้ั สองพดู กบั ลกู ชาย                ข้างหน้าน้ีเข็มนาฬิกาจะหยุดหมุน ชีวิตทั้งชีวิตจะค่อยๆ ดับลง
หัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวด้วยน้�ำเสียงท่ีอ่อนโยนว่า “ถึงเรา                  เหมอื นกับว่า...โลกใบน้ไี ร้ซึ่งอากาศหายใจ
จะเป็นคนจน แต่ขอให้ลูกภูมิใจไว้เสมอว่า พ่อกับแม่ไม่เคยโกง
ใครกิน หรือท�ำให้ใครเดือดร้อน” ท้ังสองกล่าวด้วยสีหน้าของ                         ต้ัมและพรรคพวกโบกรถเมล์สีแดงสาย ๒๙ มีจุดหมาย
ความภาคภูมิใจ                                                                 ปลายทางทตี่ ลาดใน-จดุ รวมตวั ของอกี สถาบนั   รถเมลเ์ คลอื่ นท่ี
                                                                              มงุ่ ออกไปสู่จุดหมาย ตม้ั น่ังริมหนา้ ต่างซา้ ยมอื  หยบิ บหุ รี่ข้ึนมา
   ปัจจุบันครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ท่ีจังหวัดปทุมธานี                          จุดสูบ สายตาของเขาจับจ้องไปยังนอกหน้าต่าง แล้วมองย้อน
ในตึกแถวห้าช้ันในพื้นท่ีชุมชนแออัด  มีผู้คนจ�ำนวนมากท่ี                       มาดูพวกพ้อง ก่อนจะย้ิมคนเดียวพร้อมกับอุทานออกมาเบาๆ
ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน เดินขวักไขว่ไปมาอยู่ตลอดท้ังคืน                           ว่า...เรานเี่ ท่จรงิ ๆ
ไมว่ า่ จะเป็นวัยรุน่ หรอื สาวโรงงาน
                                                                                 รถเมล์ยังคงท�ำหน้าที่ของมันต่อไป พวกเขาหันหน้าจ้อง
   ความรกั ความผกู พนั ในครอบครวั นน้ั เปรยี บเสมอื นสายน้�ำ                  มองกันและกัน ยิ้มให้กัน จับมือกัน กอดคอร้องเพลงกันจนถึง
บรสิ ทุ ธ ิ์ ไมม่ กี ารใสห่ นา้ กากเขา้ หากนั  ทงั้ สามพดู คยุ วา่ กลา่ วกนั  นาทีสดุ ทา้ ยท่ีรถเมลม์ าหยดุ ตรงท่หี มาย
ดว้ ยเหตแุ ละผลเสมอมา  กจิ การทางบา้ นดขี น้ึ เปน็ ลำ� ดบั  ไมข่ าด
ตกบกพร่องอะไร แม้บางคร้ังจะขาดอะไรไปบ้างเล็กๆ น้อยๆ                              ไม่รอช้า...! เสียงเฮของพวกเขาชาวดอนเมือง ปากร้อง
ท้ังสามกอ็ ่มิ อกอ่ิมใจในความรกั ความอบอุ่นที่มีใหก้ ันและกัน                 ตะโกนออกไปวา่ ...

   แต่ไม่มีใครท่ีไม่เคยท�ำผิด “คนที่ไม่เคยท�ำผิดคือคนท่ี                         ฆ่ามนั เลย ฆ่าพวกแม่งใหห้ มด เฮ...
ไม่เคยท�ำอะไรเลย” เป็นส�ำนวนที่คงหยิบยกข้ึนมาใช้ได้จริง                          เสียงระเบิด ตูม...ตูม...ตูม...ดังกระห่ึมข้ึนต่อเน่ือง
หนุ่มน้อยที่เพียบพร้อมไปด้วยความรักความเอาใจใส่ของพ่อ                         ประมาณ ๓-๔ ลกู  ชาวบา้ นละแวกนนั้ พากนั วงิ่ หนอี ตุ ลดุ  บางคน
กับแม่ก็เป็นอีกคนท่ีก้าวพลาดในช่วงเวลาสั้นๆ จนท้ายที่สุด                      หมอบลงกับพื้น บางคนหาท่ีแอบข้างถังขยะ ต่างฝ่ายต่างเฮ
วนั ท่ีต้ัมตอ้ งสญู เสียอิสรภาพก็มาถึง                                        ตั้มและเพ่ือนมองหน้ากันและกันก่อนหยิบมีดในกระเป๋าออกมา
                                                                              ไม่ทันระวังตัว เสียงดัง...ฟึบ...!  เขาหันมองไปทางเพ่ือนคนที่
๐๙.๐๐ น. ของวนั ท ่ี ๖ มถิ นุ ายน ๒๕๔๙ เขายงั จำ� ภาพในวนั นน้ั               ถูกแทง มีดปักอยู่ตรงแขน เพ่ือนคนน้ันเลือดไหลเป็นทาง  ต้ัม
ไดด้  ี เพราะภาพเหลา่ นน้ั คอื ความเจบ็ ปวดความทกุ ขท์ รมานแสน                เหมอื นคนบา้ ว่ิงไล่ฟนั สถาบันฝา่ ยตรงข้ามดว้ ยความโกรธแคน้
สาหัส โดยที่ใครก็ไม่มีวันเข้ามาสัมผัสรับรู้ความรู้สึกในหัวใจได้                  เขาว่ิง...ฝ่ายตรงข้ามหนี...วิ่ง...หนี...จนในท่ีสุดสถาบัน
นอกจากตัวเขาเอง                                                               ฝ่ายตรงข้ามล้มลง เขาได้โอกาสฟันลงไปท่ีศีรษะข้างซ้ายของ
                                                                              คู่อริ และฟันซ้�ำลงไปที่เดิม แต่ฝ่ายตรงข้ามยังมีสติยกแขน
   ไมใ่ ชฤ่ ทธขิ์ องสรุ า ไมใ่ ชเ่ พราะวา่ มใี ครมาดถู กู ดแู คลน แต่         ขน้ึ มากนั ไวไ้ ดท้ นั  แตถ่ งึ กระนน้ั เลอื ดของฝา่ ยตรงขา้ มกไ็ หลนอง
เพราะวัย บวกกับความรักสถาบัน ความอยากเด่นอยากดัง                              ไปตามพื้นถนนก่อนที่เขาจะสลบไป ถนนบริเวณน้ันเปลี่ยนเป็น
อยากเป็นท่ีหน่ึง อยากให้คนอ่ืนยอมรับ เขาไม่เคยค�ำนึงถึง                       สแี ดงด้วยเลือด
อนาคตของตนเองเลยด้วยซ้�ำ ไม่หวนนกึ ถงึ ค�ำท่พี ่อแม่พร�่ำสอน                     ปัง...ปัง...ปัง...เสียงปืนดัง ๓ นัด ใครเป็นใครไม่มีใครรู้
เลยแม้แต่นดิ เดยี ว                                                           ตมั้ เดนิ มาพยงุ เพอ่ื น เลอื ดเปอ้ื นหนา้ เตม็ ไปหมด เขาเรม่ิ ขาดสติ
                                                                              ทุกวินาทีที่ก้าวเดินเหมือนคนบ้า ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย
   ตั้มนัดรวมกลุ่มกับพวกรุ่นพี่และเพ่ือนๆ ที่หน้าปั๊มน้�ำมัน

106 นิตยสารสารคดี  ฉบบั ท่ี ๒๙๘ ธนั วาคม ๒๕๕๒
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103