Click here to visit the Website

ป ร ะ ก า ศ ผ ล ก า ร ป ร ะ ก ว ด บ ท ค ว า ม
Sorry, your browser doesn't support Java. รางวัลชมเชย
ทำไมไอน์สไตน์จึงสมควรได้รับการยกย่อง ให้เป็นบุคคลแห่งศตวรรษที่ 20
โดย พิมพ์พร ไชยพร โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ กทม.
พอลลีน คอช มารดาของไอน์สไตน์ (คลิกเพื่อดูภาพใหญ่)

     ศตวรรษที่ 20 เป็นศตวรรษแห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นักวิทยาศาสตร์ในประเทศต่างๆ ได้ประดิษฐ์คิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ออกมามากมาย เป็นศตวรรษที่มีความเจริญทางวัตถุสูงสุดเมื่อเทียบกับศตวรรษที่ผ่านมา แต่นอกจากความเจริญก้าวหน้าต่างๆ แล้ว เรายังได้เห็นการต่อสู้ฆ่าฟัน การใช้ความรุนแรงระหว่างมนุษย์ด้วยกันจากสงครามโลกซึ่งเกิดในศตวรรษนี้ถึง 2 ครั้ง และการแก่งแย่งชิงดี ความไม่รู้จักพอ ที่แสดงให้เห็นว่าความเจริญทางด้านจิตใจของมนุษย์ได้เสื่อมถอยลงทุกที ก็ยังมีอยู่ทั่วไป

     ในศตวรรษนี้มีบุคคลสำคัญต่างๆ เกิดขึ้นหลายท่าน ที่พยายามจะสร้างสรรค์ศตวรรษนี้ให้น่าอยู่ โดยประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่างๆ หรือปลูกสำนึกทางศีลธรรมให้กลับคืนมา บุคคลเหล่านั้นเป็นผู้ที่ทำความดี สมควรได้รับการยกย่อง แต่ไอน์สไตน์เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีผลงานสำคัญ 3 ประการที่เป็นรากฐานให้นักวิทยาศาสตร์อื่นๆ นำไปค้นคว้า ทดลองจนเกิดผลงานที่พลิกโฉมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างมากมาย และเขายังได้ใช้ความมีชื่อเสียงทางวิทยาศาสตร์ให้เป็นโอกาสในการโน้มน้าว ชักจูงสังคมมนุษย์ให้ใฝ่ความสงบและสันติภาพ ซึ่งไม่มีนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่หรือผู้นำทางจิตวิญญาณคนใดในศตวรรษนี้ สามารถทำทั้ง 2 อย่างได้พร้อมกันเหมือนเขา
ไอน์สไตน์ในวัยเยาว์ (คลิกเพื่อดูภาพใหญ่)      ไอน์สไตน์มีผลงานทางฟิสิกส์ที่สำคัญ 3 ชิ้น ได้แก่ 
     การคำนวณเกี่ยวกับ Brownian Movement ซึ่งเป็นการพยากรณ์การเคลื่อนที่ของโมเลกุลในของเหลวและก๊าซ ซึ่งนำไปสู่ Kinetic Theory ที่อธิบายถึงธรรมชาติและการเคลื่อนไหวของอนุภาค ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดสถานะของสสารว่าเป็นของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ทฤษฎีนี้มีความสำคัญต่อวิชาฟิสิกส์อีกหลายสาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Thermodynamics และยังนำไปสู่การหาจำนวน ขนาด และมวลของโมเลกุลด้วย ทำให้เรารู้ว่าสสารอยู่ในสถานะต่างๆ ได้อย่างไร ซึ่งในอดีตนั้นเราไม่สามารถล่วงรู้หรือทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ได้
     ผลงานต่อมาคือ Photoelectric Effect เป็นรายงานที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานแสง และการปลดปล่อยอิเล็กตรอนของสารบางชนิดเมื่อได้รับแสง ซึ่งนำไปสู่พื้นฐานของ Quantum Theory และทัศนะใหม่เกี่ยวกับธรรมชาติของแสง ทัศนะนี้แสดงให้เห็นว่าแสงมีลักษณะเป็นทั้งคลื่นและอนุภาค ยังผลให้ความคิด ความเชื่อต่างๆ ในเรื่องแสงของนักฟิสิกส์สมัยนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
     และผลงานชิ้นสุดท้าย ซึ่งเป็นผลงานที่โด่งดังและยากที่จะเข้าใจ คือ Relativity Theory ที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของการวัดเวลา ระยะทาง มวลสาร ที่เกิดขึ้นแก่ผู้สังเกตที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่างกัน ส่วนหนึ่งของทฤษฎีนี้คือสมการ E=mc2 ได้นำมาเป็นพื้นฐานของการค้นคว้าพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นพลังงานที่มีอานุภาพสูง และสามารถให้พลังงานปริมาณมหาศาลเมื่อเทียบกับแหล่งกำเนิดของมัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้สร้างระเบิดปรมาณูพลังงานนิวเคลียร์ขึ้น และใช้มันเพื่อยุติสงครามครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีการนำพลังงานนิวเคลียร์ไปใช้ในทางสร้างสรรค์อื่นๆ เช่น โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งแม้จะยังมีปัญหาในการกำจัดกากกัมมันตรังสีอยู่บ้าง แต่ก็สร้างมลพิษแก่สิ่งแวดล้อมและสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติน้อยกว่าการผลิตวิธีอื่นๆ
ไอน์สไตน์ในวัย ๗๔ ปี (คลิกเพื่อดูภาพใหญ่)      ผลงานของไอน์สไตน์ได้รับการพิสูจน์ โดยการทดลองทางวิทยาศาสตร์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และผลงานส่วนใหญ่ของเขานั้นถูกต้องและเป็นความจริง แต่ก็ยังมีผลงานของไอน์สไตน์อีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ หากผลงานของเขาเป็นจริงในอนาคต ก็คงจะทำความเจริญให้อีกมากมาย นั่นหมายถึงไอน์สไตน์ก็สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งศตวรรษหน้าด้วย
     นอกจากนั้นในช่วงปลายชีวิตของไอน์สไตน์ได้เริ่มเขียน Unifield Theory ซึ่งเป็นทฤษฎีที่กล่าวถึงแรง 4 ชนิดที่ควบคุมปฏิสัมพันธ์ทั้งหมดในสสารทุกชนิด แต่เขาได้เสียชีวิตก่อนที่ผลงานจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ขณะนี้มีนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกกำลังพยายามสานต่อผลงานของเขา
กับเอลซา ลอเวนทัล ภรรยาคนที่ ๒ (คลิกเพื่อดูภาพใหญ่)      ไอน์สไตน์ จากรูปภาพที่พบเห็นและคำพูดของคนรู้จักของเขา ได้แสดงถึงความโอบอ้อมอารี ความใจดี ที่มีอยู่ในตัวเขา เมื่อไอน์สไตน์มีโอกาส เขาจะใช้ความมีชื่อเสียงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสันติภาพและการต่อต้านการใช้ความรุนแรง นอกจากนี้เขายังเขียนหนังสืออีกหลายเล่มเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติวิธี สิ่งเหล่านี้ก็แสดงถึงจิตสำนึกที่ดีของไอน์สไตน์ที่พยายามสร้างสรรค์สังคม
     หนึ่งในหลายๆ ปาฐกถาของเขาที่เกี่ยวกับความสงบและสันติภาพของสังคมมนุษย์มีใจความว่า "คานธี เป็นนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา เราควรต่อสู้ตามวิถีทางของเขา โดยไม่ใช้ความรุนแรงในการแสวงหาสิ่งต่างๆ และไม่ให้ความร่วมมือในเรื่องใดๆ ที่เราเห็นว่าเป็นความชั่วร้าย" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดยืนในความใฝ่สันติของไอน์สไตน์

     ไอน์สไตน์เป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ จริงหรือไม่? เราอาจหาคำตอบง่ายๆ โดยถามจากคนใกล้เคียง เช่น บุคคลในครอบครัว เพื่อนในโรงเรียน หรือที่ทำงาน หรือบุคคลทั่วๆ ไป และจะพบว่าส่วนใหญ่ของคนเหล่านั้นเคยได้ยินชื่อไอน์สไตน์ และในขณะที่เรากำลังสอบถามอยู่นั้น ความเป็นจริงก็มีอยู่ว่าชีวประวัติและผลงานของไอน์สไตน์ได้รับการเผยแพร่เป็นหนังสือในหลายภาษา และทำเป็นรายการสารคดีทางโทรทัศน์ วิทยุ รวมไปถึงเวบไซต์ต่างๆ ทางอินเตอร์เนต และการ์ตูนที่เด็กๆ กำลังดูอยู่ทั่วโลก

หนังสือ " ไอน์สไตน์ ผู้พลิกจักรวาล"      เมื่อเราได้พิจารณาเรื่องราวของไอน์สไตน์แล้วเราจะพบว่าเขามีคุณสมบัติที่สำคัญ 3 ประการ คือเป็นนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษและได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ เป็นผู้รักและชักจูงสังคมมนุษย์ให้ใฝ่ความสงบและสันติภาพ และเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ถ้าไม่มีไอน์สไตน์ โลกในศตวรรษที่ 20 คงจะแตกต่างไปจากโลกที่เราเห็นอย่างคาดไม่ถึง อาจจะมีความล้าหลังทางเทคโนโลยีมากกว่าที่เป็นอยู่ หรืออาจจะเกิดสงครามรุนแรงด้วยอาวุธร้ายกาจอยู่ทุกแห่งในโลก
     ไอน์สไตน์จึงเป็นผู้ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ส่งเสริมความสงบและสันติภาพ ทำให้มวลมนุษย์มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย และสงบ มั่นคง อย่างที่ไม่มีผู้ใดในศตวรรษนี้ทำได้ เขาจึงควรได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งศตวรรษที่ 20 อย่างแท้จริง

อ่านบทความ รางวัลที่ ๑ โดย ศุภฤกษ์ อัศววิภาพันธุ์
รางวัลชมเชย นางสาวเขมิกา ธีรพงษ | นางสาวปิยาภัสร์ จารุสวัสดิ์ | นางสาวพิมพ์พร ไชยพร | นายภูมรินท์ สุริยาสาคร | นางสาวยุพิน พิมเสน | นางสาวออมฤทัย เล็กอำนวยพร | นายอุดม นุสาโล

Sarakadee@sarakadee.com
สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สั่งซื้อหนังสือ ]

สำนักพิมพ์ สารคดี