|  |      แม้ว่าไอน์สไตน์จะเป็นผู้คิดค้น
      เป็นต้นแบบแห่งพลังงานนิวเคลียร์
      ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนทั้งหลาย
      โดยเฉพาะคนญี่ปุ่นที่มองเขาในทางลบ อันที่จริงแล้ว ไอน์สไตน์เป็นบุคคลที่เกลียดทหาร เกลียดสงครามเป็นอย่างยิ่ง
      เมื่อสมัยเป็นเด็กเขาเคยขอให้แม่พาไปจากเยอรมนี
      เพื่อที่จะหนีการเป็นทหาร ซึ่งความคิดของเขาจะดูแตกต่างจากเด็กทั่วไป และดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกับทฤษฎีที่เขากำลังคิดค้น
      จนผู้คนมองว่า
      เขาเป็นสาเหตุที่ทำให้เมืองฮิโรชิมา
      กลายเป็นเถ้าถ่านภายในพริบตา
      จะเห็นว่ามีนักวิทยาศาสตร์บางท่าน
      พยายามที่จะทำให้บุคคลทั่วไปรู้ว่าจริงๆ แล้ว ไม่ใช่ความผิดของไอน์สไตน์ แต่เขากลับเป็นลูกผู้ชายมีเกียรติพอ เขาไม่ยอมที่จะแก้ข่าวหรือโต้แย้ง เขากลับกล่าวขอโทษชาวญี่ปุ่นและขอให้ทุกคนอภัยในตัวเขา อาจกล่าวได้ว่าไอน์สไตน์เป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ ทั้งด้านความคิด สติปัญญา ความรับผิดชอบและหลายๆ อย่างที่รวมอยู่ในตัว ผู้ชายที่ชื่อ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์" | 
  
    |  | "ผู้เปิดโลกฟิสิกส์สมัยใหม่"
      คำกล่าวนี้
      น่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับไอน์สไตน์ในตอนนี้ ผู้ที่ไม่เคยยอมแพ้กับสิ่งต่างๆ
      ผู้บุกเบิกวิชาฟิสิกส์ให้ก้าวหน้า
      ไปพร้อมๆ กับ ปรัชญา  เขาสามารถที่จะทำอะไรหลายๆ อย่างไปพร้อมๆ กันอย่างน่าทึ่ง สมกับเป็นบิดาแห่งวิชาฟิสิกส์อย่างแท้จริง  ไอน์สไตน์ไม่ได้มัวเมาอยู่กับงานของเขาเอง แต่เขากลับเล็งเห็นและสนใจงานของบุคคลอื่นอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้ว่า เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เปิดกว้าง พร้อมจะยอมรับในสิ่งต่างๆ อย่างทฤษฎีควอนตัม ซึ่งขัดแย้งกับทฤษฎีของเขา ทำให้เขาหันมาสนใจทฤษฎีนี้
      ในขณะเดียวกันไอน์สไตน์ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์
      ที่สนใจในเรื่องปรัชญา
      และศาสนา คำกล่าวที่ทำให้ตัวฉันทึ่งในความคิดของเขามากที่สุดคือ "นักวิทยาศาสตร์ที่ปราศจากศาสนา
      ก็เปรียบเสมือนคนง่อยเปลี้ยเสียขา
      แต่ศาสนาที่ไม่มีวิทยาศาสตร์
      ก็คือคนตาบอดมืดมัว" ตรงนี้ทำให้ฉันรู้ว่า ไอน์สไตน์ไม่เคยที่จะแบ่งแยกตัวเองจากผู้อื่น
      เขาไม่เคยคิดว่าตน
      เป็นมนุษย์ที่เหนือกว่ามนุษย์คนอื่นทั่วๆไป
      แต่เขากลับพยายามที่จะชี้ให้เห็นว่า
      เขาก็คือบุคคลธรรมดา มีทุกข์ มีสุข มีวิทยาศาสตร์เป็นแขนขา พร้อมทั้งมีศาสนาเป็นจิตใจ ไอน์สไตน์ทำให้คนทั่วโลกรู้จัก เขาเป็นบุคคลที่น่ายกย่อง สรรเสริญ ถึงตอนนี้ถ้าใครจะกล่าวว่า "ไอน์สไตน์บุคคลแห่งศตวรรษที่ 20" ก็คงไม่แปลกอะไร | 
  
    |  | E=mc2 ผลงานที่น่าทึ่งของเขา
        ที่เรียกว่า
        สามารถเปลี่ยนแปลงวิทยาศาสตร์
        ได้อย่างอัจฉริยะ
        ผลงานที่สร้างชื่อนี้
        ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักตัวเขามากขึ้น
        ถึงตอนนี้แม้ไอน์สไตน์
        จะไม่ได้รับรู้ถึงผลงานที่วิเศษสุดของเขาก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เขาพยายามที่จะบ่งบอกให้ทั่วโลกได้รับรู้ก็คือ
        แม้ว่าเขาจะเป็นผู้คิดค้นนิวเคลียร์
        หรือระเบิดปรมาณูพวกนั้น
        ก็มิได้หมายความว่า
        เขาต้องการให้เกิดสงครามขึ้นในโลก  ไอน์สไตน์หวังเพียงแค่การศึกษา การคิดค้นทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เท่านั้น  ตลอดเวลาที่ไอน์สไตน์มีชีวิตอยู่ เขามิได้หมกมุ่นอยู่แต่กับสิ่งนี้ เขายังศึกษาคัมภีร์ไบเบิล และไวโอลินซึ่งเขาชื่นชอบ จึงเป็นจุดที่ชี้ให้เห็นว่า เขามีจิตใจที่อ่อนโยนและรักสงบ | 
  
    |  | มาถึงตอนนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธสูตรนี้ E=mc2  ไม่มีใครไม่รู้จักบิดาแห่งวิชาแห่งฟิสิกส์ทฤษฎี ทุกคนยอมรับในความสามารถของเขา  มีรางวัลโนเบลรับรองผลงาน ที่มาจากหนึ่งสมองกับสองมือของเขา  วันนั้นจากเด็กชายที่ถูกคนอื่นดูถูก ถูกเพื่อนคนอื่นหัวเราะ วันนี้เขากลับกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีผลงานยิ่งใหญ่สะท้านโลก ซึ่งสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็น "บุคคลแห่งศตวรรษที่ 20 " อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ |