Page 175 - Skd 381-2559-11
P. 175
ปจั จบุ ัน (กันยายน ๒๕๕๙) ปา๋ งสอนลิกไตมนี กั เรียน ๘๐ คน ร้สู ึกอบอนุ่ ที่ได้มาเจอคนไทใหญด่ ้วยกนั
อายุตั้งแต่ ๖-๕๐ ปี เพิ่มข้ึนสามเท่าจากปี ๒๕๕๖ และบ่อยคร้ังมี นกั เรยี นของปา๋ งสอนลกิ ไตยงั ไดโ้ อกาสทางการศกึ ษาตามระบบ
บุคคลทั่วไปมาขอเรียน ทั้งยังเคยมีนักศึกษาปริญญาเอกทั้งไทย ฝรั่ง
กระท่ังคนญี่ปนุ่ มาขอเรียนดว้ ย การศึกษาของไทย อย่างครูจอมแลงและครูซอเล็กซึ่งเคยเรียนที่นี่
ปจั จบุ นั เรยี นในระบบการศกึ ษานอกโรงเรยี น (กศน.) สว่ นครจู นั ทรห์ อม
การอยู่ต่างถ่ินในฐานะแรงงานข้ามชาติ การต้องต่อสู้กับอคติ ซ่ึงสอนที่น่ีมาต้ังแต่แรกก็เป็นนักศึกษาปีที่ ๑ ของมหาวิทยาลัย
ทางชาตพิ นั ธ ์ุ ทำ� ใหค้ นไทใหญต่ อ้ งปรบั ตวั อาศยั ความคดิ เชงิ บวกเพอ่ื รามค�ำแหง
ให้ชีวติ ด�ำเนินตอ่ ไปได้
คนไทใหญใ่ นเมอื งไทยจงึ ถกู ยดึ โยงไวด้ ว้ ยรากเหงา้ ทางวฒั นธรรม
ด้วยความห่างไกลจากแผ่นดินแม่ ป๋างสอนลิกไตจึงมีความ ท่แี ผ่ขยายจากสถานทแี่ ห่งนี ้
ส�ำคัญในฐานะสถานท่ีต่อลมหายใจความเป็นไทใหญ่ในต่างแดน
ในห้องเรียนมีการแทรกความรู้ทั่วไป ทักษะการใช้ชีวิต การขัดเกลา
ทางศาสนา ช่วงหลังยังเพ่ิมเติมการเมืองในรัฐฉานและเมียนมาด้วย
นอกจากน้ยี งั สรา้ งเครือขา่ ยทางสงั คมเพ่อื ชว่ ยเหลือซง่ึ กนั และกัน
ครจู นั ทรห์ อมเลา่ วา่ “บางคนยอมขรี่ ถมอเตอรไ์ ซคจ์ ากอำ� เภอล้ี
จังหวัดล�ำพูนกว่า ๑๐๐ กิโลเมตรเพ่ือมาเรียนที่น่ีทุกอาทิตย์” เพราะ
พฤศจิกายน ๒๕๕๙ 173