Click here to visit the Website
กลับไปหน้า สารบัญ ย้ อ น ร อ ย ๑ ๕ ปี ส า ร ค ดี
กุลธิดา สามะพุทธิ, วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ เรื่อง
ฝ่ายภาพสารคดี ภาพ
 
  ลิ ง จ๊ อ บ
(คลิกเพื่อดุภาพใหญ่)     "นกระทั่งได้เวลาลาจาก เราพามันเข้ากรง แต่ยังไม่ทันปิดประตูกรง มันก็ส่งเสียงร้องอี๊ด ๆ และวิ่งตามเราออกมาข้างนอก พอมาถึงตัวเรา ก็ล้มลงนอนเหยียดแข้งเหยียดขา ทำท่าทางงอแงเหมือนเด็ก ๆ ราวกับจะบอกว่า ้"อย่าทิ้งเค้าไปนะ" ทำให้เราต้องอุ้มจ๊อบ ขึ้นมากอดอยู่พักใหญ่ และแอบหนีจ๊อบกลับในภายหลัง
    ส่งกันพันลี้ก็ไม่แคล้วจากกัน
    คงได้เจอกันอีกนะ...จ๊อบลูกรัก"

("เรียกเขาว่า 'จ๊อบ" "สารคดี ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๕, มกราคม ๒๕๓๑)


      เมื่อประมาณ ๑๐ ปีที่แล้ว ดาราประจำสวนสัตว์เขาดิน ที่เด็กส่วนมากรู้จักดี เห็นจะไม่มีใครเกิน ลูกลิงอุรังอุตังตัวหนึ่งมีนามว่า จ๊อบ
    คนเก่าคนแก่ ที่ทำงานในเขาดินเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ทำงาน ในเขาดินมาหลายสิบปี ไม่มีสัตว์ตัวใด เป็นดาราโด่งดังและยืนนานเท่าจ๊อบ
    ดังถึงขนาดเคยไปออกทีวี เป็นพิธีกรรับเชิญ ในรายการพยากรณ์อากาศ หรือครั้งหนึ่งเมื่อได้รับเชิญ ไปออกงานที่เชียงใหม่ ปรากฏว่ามีผู้คนไปต้อนรับ เอาจ๊อบขึ้นรถแห่ รอบเมืองเชียงใหม่ ทั้งนี้ไม่นับวันเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าวันเด็ก วันลอยกระทง ที่จ๊อบมีคิวงาน ให้ออกมาปรากฏตัวแน่นเอี๊ยด
    พ่อแม่ของจ๊อบ ไม่ได้เกิดเมืองไทย แต่ถือสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ พ่อของจ๊อบมีนามว่า ซูม่า แม่ชื่อเซมปาก้า อาศัยอยู่ ในสวนสัตว์บาเซิล สวนสัตว์ที่มีชื่อเสียง ในการผสมพันธุ์ลิงชั้นสูงที่เรียกว่า ape ซึ่งเป็นลิงที่ มีส่วนใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุด ได้แก่ ชิมแปนซี อุรังอุตัง กอริลลา และชะนี
    พอสวนสัตว์ดุสิต ส่งชะนีมงกุฎสี่ตัว ไปขอแลกลิงอุรังอุตังคู่หนึ่งที่สวนสัตว์บาเซิล ซูม่าและเซมปาก้า จึงมีโอกาสข้ามน้ำข้ามทะเล จากยุโรปมาอยู่เมืองร้อน ที่มีภูมิอากาศคล้ายกับ ถิ่นกำเนิดเดิมของลิงอุรังอุตัง ในโลก คือในเกาะบอร์เนียว และเกาะสุมาตรา
    เซมปาก้าและซูม่า ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยได้ไม่กี่ปี เซมปาก้าก็ตั้งท้อง เมื่อครบกำหนดเก้าเดือน ก็ให้กำเนิดลูกลิงอุรังอุตัง เพศผู้ตัวหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกต่อมาว่า จ๊อบ
(คลิกเพื่อดุภาพใหญ่)    พอจ๊อบลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๒๘ เวลา ๖.๓๐ น. ก็เริ่มเป็นข่าว
ดังทันที สื่อมวลชน พากันประโคมข่าว ลิงอุรังอุตังตัวแรกที่เกิดในเมืองไทย ด้วยความตื่นเต้น เปิดให้เด็ก ๆ ตั้งชื่อลูกลิงตัวใหม่ ส่งเข้าประกวดกันอย่างคึกคัก จ๊อบได้ชื่อเป็นทางการจากการประกวดครั้งนั้นว่า "ใหม่" โดยเด็กที่เป็นเจ้าของ ชื่อชนะเลิศการประกวดนี้ ให้เหตุผลว่า เป็นลูกลิงอุรังอุตังตัวแรก ที่เกิดในเมืองไทย
    แต่ไป ๆ มา ๆ จาก "ใหม่" ก็กลายเป็นจ๊อบ เพราะแม่เซมปาก้า ไม่ยอมเลี้ยงลูกขึ้นมาเฉย ๆ เดือดร้อนถึงคน ต้องอาสาเป็นพ่อแม่เลี้ยงแทน
    จ๊อบหรือหนูใหม่ลืมตาได้ เพียงสองวัน หนักแค่ ๑ กิโลกรัม ตัวเล็กเพียง ๖-๘ นิ้ว แม่เซมปาก้าที่เคยให้ดูดนม ก็เอาลูกพาดบ่า ไม่ยอมให้ดูดนมต่อไป โดยไม่ทราบสาเหตุ ร้อนถึงคุณหมออลงกรณ์ มหรรณพ สัตว์แพทย์ประจำเขาดิน ต้องวางยาสลบเซมปาก้า พรากลูกออกมา จากแม่ด้วยความจำเป็น ก่อนที่มันจะอดอาหารตาย   
    คุณหมอ กลายเป็นคุณพ่อจำเป็น เมื่อต้องนำลูกลิงตัวใหม่ ไปเลี้ยงที่บ้าน ภรรยาและลูก ๆ ของคุณหมอ ก็ต้องช่วยกันป้อนนมให้ทุก ๆ ๓ ชั่วโมง คอยเปลี่ยนผ้าอ้อม ซักผ้าอ้อม ราวกับเป็นลูกคนสุดท้อง พอกินนมเสร็จ ต้องจับขึ้นมาพาดบ่า ให้เรอเหมือนลูกคน ตอนนั้นลูกของคุณหมอ ชื่อจอยกับโจ๊ก ภรรยาของคุณหมอ จึงตั้งชื่อสมาชิกใหม่ในครอบครัวว่า จ๊อบ
    ระยะแรก จ๊อบกินแล้วนอนจริง ๆ กลางดึก มันมักร้องเสียงดังอี๊ด ๆ ปลุกให้คุณพ่อตื่น มาหานมให้ลูกจ๊อบกิน พอกินเสร็จก็ฉี่ ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมกัน คืนละสี่ห้าครั้ง กว่าจะหลับสนิท
    จ๊อบมีโรคประจำตัว คือท้องเสียบ่อย ๆ เนื่องจาก ตอนอยู่กับแม่เซมปาก้า มันได้รับนมน้ำเหลือง หรือโคลอสตุ้ม ซึ่งมีคุณสมบัติ ในการสร้างภูมิต้านทาน จากคุณแม่น้อยมาก จึงมีโอกาสติดเชื้อสูง จ๊อบเคยท้องเสีย อย่างรุนแรง ต้องนอนหยอดน้ำเกลืออยู่หลายวัน วันไหนที่จ๊อบเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก คุณพ่อก็จะทา "วิคส์วาโปรับ" ที่หน้าอกและห่มผ้า หลายชั้นให้อบอุ่น
    สามเดือนต่อมา เมื่อจ๊อบแข็งแรงดี คุณหมออลงกรณ์ ก็มอบภาระความเป็นพ่อของจ๊อบ ให้แก่คุณวันชัย เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลสัตว์เขาดิน ที่กลายมาเป็นคุณพ่อ ที่เลี้ยงลูกลิงยาวนานที่สุด
    บ้านใหม่ของจ๊อบคือ บ้านพักของวันชัยในบริเวณเขาดินนั่นเอง และจ๊อบก็แสดงความเป็น ลูกลิงให้สมาชิกในบ้านเห็นอย่างเต็มตา รื้อข้าวของในบ้านกระจุยกระจาย ดึงผ้าคลุมตู้ลงมาลากเล่น กดปุ่มทีวีเป็นที่สนุกสนานเมื่อเห็นแสง สี เสียงในจอตู้สี่เหลี่ยม จนคนในบ้าน ไม่ยอมให้จ๊อบคลาดสายตาอีกต่อไป
    พอย่างเข้าสองขวบ จ๊อบย้ายบ้าน มาอยู่ในโรงพยาบาลสัตว์ มีกรงขนาดใหญ่ส่วนตัว ให้จ๊อบนั่งเล่น เพื่อจะได้ไม่ไปแกล้งคนอื่น ๆ ตอนที่กำลังทำงาน แต่คุณพ่อวันชัยมักใจดีอุ้มจ๊อบ พาเดินไปทำงานตามที่ต่าง ๆ ในเขาดิน จนเป็นที่สนใจ ของผู้คนที่มาเที่ยว
    ตกเย็นคุณพ่อ จะมารับจ๊อบ ไปดินเนอร์ในโรงพยาบาลสัตว์ ป้อนอาหารเสริม รสชาติคล้ายข้าวโอ๊ตยี่ห้อซีรีแลค จ๊อบจะเอามือกอดอก แล้วยื่นหน้าออก ให้คนป้อนด้วยความสุภาพ หรือบางทีก็ใช้ช้อนตักอาหารหม่ำเอง อย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเด็ก อาหารอื่น นอกเหนือจากกล้วย ที่เป็นอาหารหลัก ก็มีองุ่น ส้ม มังคุด และทุเรียน ผลไม้ที่จ๊อบชอบมากที่สุด รวมถึงโค้กหรือเป๊ปซี่ เครื่องดื่มที่โปรดปรานสุดสุด
    จ๊อบมีนิสัย ต่างจากลูกลิงธรรมดา ตรงที่เวลาไม่พอใจ จะงอแงลงไปดิ้น และส่งเสียงร้องคล้ายเด็ก ๆ เวลาตกใจกลัว จะแสดงอาการกลัวแบบเด็ก ๆ คือกอดอก เบิกตากว้าง ส่วนนิสัยที่แก้ไม่หายก็คือ ชอบแกล้งเพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านกรงติดกันตัวแรกคือ ช้างน้อยกำพร้าชื่อ ชัย ตอนแรกจ๊อบไม่เคย เห็นหน้าตาพี่ชัย พอพี่ชัยยื่นงวง เข้ามาในกรง จ๊อบชอบแกล้ง ดึงงวงเล่นเป็นประจำ จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณพ่อวันชัยอยากดัดนิสัยลูกลิง จึงพาน้องจ๊อบ ไปทักทายพี่ชัยถึงกรง พอจ๊อบเห็นหน้าตา ของเพื่อนบ้านเท่านั้น ก็กอดอกแน่นด้วยความกลัว แล้วโดดเกาะคุณพ่อแน่น เพราะไม่เคยเห็นตัวอะไรหัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
    แม้จ๊อบจะเลิกแหย่พี่ชัย แต่ก็ยังคงแกล้งคนอื่นต่อไป บางทีเอาผลไม ้ที่ไม่ชอบกินอย่างส้ม ปาใส่น้องแรคคูนที่อยู่หน้าบ้าน หรือไม่ก็โยนออกไปนอกรั้วเขาดิน ไปโดนคนที่กำลังคอยรถเมล์
    บางครั้งมีคนแปลกหน้ามาเยี่ยม จ๊อบชอบยื่นมือ ไปบีบแขนคนแปลกหน้าแรง ๆ บางครั้งก็ดึงมือมากัดย้ำ ๆ ด้วยความมันเขี้ยว ตามประสาวัยกำลังซน คนที่รู้จักดี ก็จะแกล้งจ๊อบกลับด้วยการจับก้น จ๊อบจะนั่งลงทันทีด้วยความจั๊กจี้ หรือจี้ที่ซอกคอจ๊อบจนเจ้าจ๊อบจอมบ้าจี้ต้องส่งเสียงร้องกรี๊ด ๆ ออกมา
      ความเป็นลูกลิง ที่มีนิสัยไปทางเด็กน้อย และชินกับคนมาตั้งแต่เล็ก ทำให้จ๊อบ เป็นดาราคนโปรดของเด็ก ๆ ที่มาเที่ยวเขาดิน จ๊อบเป็นหนึ่งในจำนวนสัตว์ไม่กี่ตัว ที่สามารถออกมาเดินเล่นนอกกรงได้ โดยไม่ทำร้ายใคร และคนทั่วไป ก็จะนึกถึงจ๊อบที่ชอบทำท่า "อิคคิวซัง" เอามือสองข้างจิ้มหัวตัวเอง ไม่ว่าจะไปออกงาน หรือออกทีวีครั้งใด
    ทางเขาดิน นำจ๊อบออกแสดง ได้ประมาณเจ็ดแปดปี ความเป็นเด็กเล็ก ซุกซนของจ๊อบก็ค่อย ๆ หายไป จ๊อบกลายเป็นหนุ่ม ไม่ซุกซน และขี้เล่น เหมือนตอนเป็นเด็กอีกต่อไป แม้ว่าอุรังอุตังจะเป็นสัตว์รักสงบ ไม่ดุ แต่สัญชาตญาณของสัตว์ป่า ก็ยังมีติดตัวจนเจ้าหน้าที่เขาดิน ไม่กล้าปล่อยจ๊อบออกมาเดินเล่น ทักทายผู้คนเหมือนแต่ก่อน
    ทุกวันนี้จ๊อบวัย ๑๕ ปีกลายเป็นหนุ่มใหญ่ (อายุเฉลี่ยของลิงอุรังอุตังคือ ๓๕ ปี) ใครที่เคยเห็นจ๊อบเมื่อตอนเด็ก ๆ คงนึกภาพจ๊อบตอนนี้ไม่ออกแน่นอน น้ำหนักตัวสิบกว่ากิโลกรัมในวัยเด็ก เพิ่มขึ้นเป็น ๙๐ กิโลกรัม รอบตัวมีขนยาวหยาบ สีน้ำตาลแดง กระพุ้งแก้มของจ๊อบ ยื่นใหญ่ออกมาด้านข้าง จนเป็นแผ่นเนื้อขนาดใหญ่ แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือ จ๊อบยังคงทำท่าอิคคิวซังให้เห็นเหมือนเดิม
    พี่ประหยัด กระแสยศ คนเลี้ยงล่าสุดของจ๊อบเล่าให้ฟังว่า ทุกวันจะให้อาหารจ๊อบตอนบ่ายสามโมงครึ่ง ซึ่งได้แก่ กล้วยสองหวี แอปเปิล มะละกอ ถั่วฝักยาว สับปะรด ส้ม และไข่ต้ม อย่างละครึ่งกิโล และน้ำวันละห้าขวดลิตร
    บางครั้งจ๊อบไม่สบาย หรือมีแผลอักเสบ คนเลี้ยงจะยัดยาเม็ดลงไปในกล้วยหลอกให้จ๊อบกินยา แต่พอทำหลายครั้งเข้า จ๊อบก็ฉลาดพอที่จะไม่กินยาเม็ด คนเลี้ยงจึงเปลี่ยนวิธีใหม่ โดยเอายาเม็ดละลายในน้ำเชื่อมให้จ๊อบกิน
    วันใดจะทำความสะอาดบ่อใหญ่ที่เลี้ยงจ๊อบ พี่ประหยัดจะเอาโค้กหรือเป๊ปซี่กระป๋อง เครื่องดื่มคุ้นลิ้นของจ๊อบไปตั้งไว้ ในคอกกักที่อยู่ภายในบ่อ เมื่อจ๊อบเห็นจะรีบเข้าคอกกัก เพื่อดื่มน้ำอัดลมอย่างเอร็ดอร่อย พี่ประหยัดก็จัดแจงล็อกคอกกัก ทำความสะอาดบ่อใหญ่ได้
    จ๊อบมีเพื่อนบ้าน อยู่ในบ่อใหญ่ติดกัน เป็นลิงอุรังอุตังเพศเมียตัวหนึ่งชื่ออ้อย อายุประมาณ ๑๒ ปี เมื่อสองปีก่อนสัตวแพทย์ เคยทดลองให้ทั้งสองตัว เห็นหน้ากันเป็นเวลาครึ่งปี เพื่อสร้างความเคยชิน และลองปล่อยให้อย ู่ในบ่อเดียวกัน ปรากฏว่าพี่จ๊อบที่รักความสันโดษ เป็นอย่างยิ่ง ตรงเข้าทำร้ายน้องอ้อย ที่อายุอ่อนกว่า กัดจนเป็นแผลเหวอะหวะ ต้องแยกทั้งคู่ออกจากกัน จ๊อบจึงยังคงรักษา ความเป็นโสดมาถึงทุกวันนี้
    ทุกวันนี้จ๊อบมีสุขภาพแข็งแรง แต่เริ่มมีอาการก้าวร้าวมากขึ้น จนคนเลี้ยงไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ เหมือนสมัยก่อน ซึ่งเป็นธรรมชาติ ของลิงอุรังอุตังเพศผู้ แต่คนเลี้ยงบางคนเล่าให้ฟังว่า บางครั้งก็มีนักท่องเที่ยว มาแกล้งจ๊อบ มีทั้งแกล้งทำท่าให้อาหาร แต่ไม่ยอมให้ ไปจนถึงการแกล้งโยนบุหรี่ที่ยังติดไฟใส่ตัวจ๊อบ ด้วยความคึกคะนอง
    วันนี้จ๊อบไม่ใช่สัตว์ซุกซนน่ารัก เด่นดังเหมือนในอดีต แต่กลายเป็นลิงอุรังอุตัง วัยหนุ่มฉกรรจ์ที่งามสง่าตัวหนึ่ง ใครที่เคยเห็นจ๊อบในวัยเด็ก ลองแวะไปดูแล้วจะรู้ว่า ความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์

  ค้างคาวกิตติ (คลิกดูรายละเอียด)ลิงจ๊อบโจหลุยส์ (คลิกดูรายละเอียด)ยันตระอมโรภิกขุ (คลิกดูรายละเอียด)
เลียวนี่ เวชชาชีวะ (คลิกดูรายละเอียด)ศาสตราจารย์นายแพทย์สุดแสง วิเชียร (คลิกดูรายละเอียด)ตลาดหุ้น (คลิกดูรายละเอียด)
 สนับสนุน หรือ คัดค้าน
นักศึกษากับ การประกวดนางงาม โอกาสที่ยั่งยืน หรือเย้ายวน

สิทธิคนไทย กับการดูหนังเรื่อง Anna and the King
สารบัญ | จากบรรณาธิการ | ย้อนรอย ๑๕ ปี สารคดี | อาชญากรเด็ก ? เหยื่อความรุนแรงในครอบครัว | กินอย่างคนภูเก็ต | ลาก่อน "พีนัตส์" | นักรบชายขอบ การต่อสู้ของชนกลุ่มน้อย ชายแดนไทย-พม่า | ซองคำถาม | เฮโลสาระพา
Soldiers at the Margins | Tracing Back 15 Years of Sarakadee
สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สมาชิก/สั่งซื้อหนังสือ | WallPaper ]
ขึ้นข้างบน (Back to Top) นิตยสาร สารคดี (Latest issue) E-mail