เมื่อคราวนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเดินทางมาเยือนไทย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อหาเสียงสนับสนุนในการเป็นตัวแทนเอเชียสำหรับการประชุมจีแปด ซึ่งจะจัดขึ้นที่ญี่ปุ่นปีนี ้ มีกลยุทธ์ทางวัฒนธรรมที่น่าประทับใจ และทำให้คนไทยรู้สึกสนิทใจสองอย่าง คือ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นไปร่วมอวยพรคู่บ่าวสาวในโรงแรมที่เข้าพัก โดยไม่ได้รับเชิญ และกล่าวว่าเจ้าบ่าวคงทำบุญร่วมชาติกับตนมาเมื่อชาติก่อน อีกเหตุการณ์หนึ่งคือไปตอบข้อซักถาม ของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างเป็นกันเอง ทั้งสองเหตุการณ์ต้องอาศัยการวางแผนโดยผู้ซึ่งเข้าใจ และรู้จักวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างดี
กลยุทธ์ทางการทูตโดยใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือ เสมือนขนมหวานสำหรับประเทศไทยตลอดมา ผลลัพธ์ของการรับประทานโดยไม่รู้เท่าทันก็เป็นดังเช่นอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ เปรียบเปรยไว้ว่า "ประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีปัญญาเป็นนักเลงโต และไม่รู้จักคุณค่าของวัฒนธรรมในทางการทูต จึงเป็นเพียงเบี้ยให้คนอื่นเขาจับเดิน" เท่านั้น (นิธิ เอียวศรีวงศ์. วัฒนธรรมและนักเลงโต. มติชนสุดสัปดาห์, ๒๕ มกราคม ๒๕๔๓)
เมื่อมีการขยายตัวของชุมชนหนาแน่นขึ้น จากชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์กลายเป็นเมืองที่มีความซับซ้อน เป็นเมืองที่มีผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยการขุดคูน้ำชั้นเดียว มีปราสาทพิมายเป็นศูนย์กลาง ต่อมาได้ขยายเมืองไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะเป็นชุมชนเมืองที่จัดสร้างขึ้นตามรูปแบบอิทธิพลจากเมืองพระนคร โอบล้อมด้วยลำน้ำหลายสาย คือ ลำน้ำมูล ลำจักราช และลำน้ำเค็ม ในรัศมี ๒๐ กิโลเมตรของเมืองพิมายแวดล้อมไปด้วยชุมชนบริวารซึ่งเป็นที่ลุ่มทำการเกษตรได้ดี เมืองพิมายคือศูนย์กลางแห่งศิลปวัฒนธรรม และการปกครองของกลุ่มบ้านเมืองในลุ่มน้ำมูลตอนบน ที่พัฒนาขึ้นมากจากชุมชนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จนกลายเป็นศูนย์กลางของชุมชน ที่นับถือพุทธศาสนาแบบมหายานเป็นหลัก ในขณะที่ขอมเมืองพระนครนับถือฮินดู อันแสดงให้เห็นความแตกต่างทางความเชื่อ และทางการเมืองของกลุ่มคนทั้งสองแห่งอย่างชัดเจน
*ประติมานวิทยา (Iconography) การศึกษาลักษณะเรื่องราว รูปภาพ รูปเคารพ ที่เป็นงานศิลปะ โดยการพิสูจน์ พรรณนา ตีความ แยกแยะ ประวัติ และความหมายของวัตถุ หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องทางศาสนา และวัฒนธรรม เช่น การศึกษาสัญลักษณ์ และความหมาย ในงานศิลปะทางศาสนา ของประติมากรรม และสถาปัตยกรรมโบราณ เป็นต้น
บรรณานุกรม ศรีศักร วัลลิโภดม. แอ่งอารยธรรมอีสาน สำนักพิมพ์มติชน, กรุงเทพฯ, ๒๕๓๓