Page 135 - Skd 298-2552-12
P. 135

ใชส้ อน และหา้ มใชเ้ รยี นอยา่ งเดด็ ขาด เพราะสถาบนั ศาสนา               วัตถุมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ  จากนั้นก็ได้พัฒนา
แหง่ วาตกิ นั มคี วามเหน็ วา่ เนอ้ื หาในหนงั สอื เลม่ นข้ี ดั แยง้ และ   ประสทิ ธภิ าพของกลอ้ งจนสามารถขยายภาพได ้ ๙ เทา่  ๒๐
โจมตคี ำ� สอนในคมั ภรี ไ์ บเบลิ อนั ศกั ดส์ิ ทิ ธ ิ์ เชน่ ไบเบลิ บอกวา่  เท่า และ ๓๐ เท่า  และได้เรียกอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์ข้ึนน้ีว่า
ดวงอาทติ ยม์ กี ารขน้ึ และตก ในขณะทโี่ ลกอยนู่ งิ่  แตโ่ คเปอร-์         Perspicillum เพราะใช้ดูวัตถุท่ีอยู่ไกลได้ชัด  เมื่อกล้อง 
นิคัสกลับระบุว่า โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ และหมุนรอบ                         มปี ระสทิ ธภิ าพดขี น้ึ  ๆ กาลเิ ลโอผรู้ วู้ ธิ ที ำ� กลอ้ งจงึ สรา้ งกลอ้ ง
ตวั เองไดด้ ว้ ย ทำ� ใหด้ วงอาทติ ยเ์ ปน็ ศนู ยก์ ลางของเอกภพ ซง่ึ       ขนึ้ มากมายเพอ่ื ขายใหท้ หารใชส้ อดแนมขา้ ศกึ  และใหพ้ อ่ คา้
ถา้ ความคดิ ของโคเปอรน์ คิ สั เปน็ ความจรงิ  เวลาโลกอยเู่ หนอื           ใช้ส่องดูเรือในทะเลท่ีอยู่ไกลจากฝั่งเพ่ือจะได้รู้ล่วงหน้าว่า
ดวงอาทติ ย ์ นน่ั หมายความวา่ โลกอยบู่ นสวรรค ์ แลว้ พระเจา้             เรืออะไรจะน�ำสินค้าอะไรมาขาย ซ่ึงจะทำ� ให้พ่อค้า “ผู้เห็น
อยทู่ ใี่ ด และเวลาโลกอยใู่ ตด้ วงอาทติ ย ์ โลกจะอยใู่ นนรกใช่           การณไ์ กล” ได้กำ� ไรและดำ� เนนิ การคา้ ไดอ้ ย่างมหี ลกั การ
หรือไม่ เป็นตน้
                                                                            การมีวิญญาณนักประดิษฐ์เต็มตัวท�ำให้กาลิเลโอรู้จัก 
   ด้วยเหตุน้ีส�ำนักวาติกันจึงประกาศว่า คนท่ีคิดและเชื่อ                 คดิ วเิ คราะหป์ ระสทิ ธภิ าพของกลอ้ งในล�ำดบั ตอ่ ไป และกไ็ ด้
ตามโคเปอรน์ คิ สั เปน็ คนนอกรตี  สมควรถกู ลงโทษ ซงึ่ อาจจะ               พบว่ากล้องส่องทางไกลสามารถเห็นวัตถุได้ตราบใดที่แสง
สถานหนกั คอื ถกู ฆา่ เชน่ เดยี วกบั  จอี อรด์ าโน บรโู น (Giordano       จากวัตถุนน้ั เดนิ ทางผ่านเลนส์มาเข้าตา  คำ� ถามท่ีกาลิเลโอ
Bruno) นักบวชผู้น�ำความคิดของโคเปอร์นิคัสไปเผยแพร่                       สนใจคอื  กลอ้ งสามารถเหน็ วตั ถไุ ดไ้ กลเพยี งใด กลอ้ งสามารถ 
โดยได้เทศนาชักน�ำให้ประชาชนเชื่อว่า ถ้าโลกเป็นเพียง                      เห็นดาวที่อยู่ไกลถึงขอบฟ้าได้หรือไม่ ดังน้ันกาลิเลโอจึง 
ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งท่ีมีมนุษย์อาศัยอยู่ ดังน้ันดาวเคราะห์                 หันกล้องส่องทางไกลขึ้นท้องฟ้า แล้วเล็งกล้องตรงไปท่ ี
ดวงอน่ื  ๆ ในเอกภพกน็ า่ จะมมี นษุ ยอ์ าศยั อยดู่ ว้ ยเชน่ กนั  และ      ดวงจนั ทร ์  และนกี่ ค็ อื การปฏวิ ตั คิ รง้ั ยง่ิ ใหญค่ รงั้ หนงึ่ ในวชิ า
ถ้ามนุษย์ต่างดาวมีจริง มนุษย์โลกก็มิได้ย่ิงใหญ่หรือสำ� คัญ               ดาราศาสตร์ เพราะกาลิเลโอได้แปลงอุปกรณ์ที่คนท่ัวไปใช้
แต่เพียงผู้เดียว (ในความเห็นของบรูโน ดวงจันทร์ ดาว                       หรือให้เด็กเล่น เป็นอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ท่ีเรียกว่ากล้อง 
อังคาร ฯลฯ ต่างก็มีมนุษย์อาศัยอยู่)  การช้ีน�ำให้ผู้คนเชื่อ              โทรทรรศนใ์ หน้ กั ดาราศาสตรใ์ ชศ้ กึ ษาดาวฤกษ ์ ดาวเคราะห์ 
เชน่ นจ้ี งึ ลบหลคู่ ำ� สอนในไบเบลิ มาก ศาลศาสนาจงึ ไดพ้ พิ ากษา         และดวงจันทร์  กล้องโทรทรรศน์นี้ได้ท�ำให้กาลิเลโอเห็น 
ให้น�ำตัวบรูโนไปเผาท้ังเป็นที่จัตุรัส Campo de’ Fiori                    และพบปรากฏการณ์ต่าง ๆ บนท้องฟ้าท่ีไม่เคยมีมนุษย์ 
ในกรุงโรม เม่ือเวลาเช้าตรู่ของวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ค.ศ.
๑๖๐๐๒                                                                    ๒ ส�ำหรับบทบาทของศาลศาสนา (Inquisition) น้ัน เราต้องรู ้
                                                                         ด้วยว่าเม่ือถึง ค.ศ. ๑๖๐๐ ท่ีจะมีการเปล่ียนคริสต์ศตวรรษใหม่ 
   เมอ่ื อาย ุ ๔๔ ป ี กาลเิ ลโอไดข้ า่ ววา่ ทเี่ มอื ง Middelburg        มีเหตุการณ์ส�ำคัญเกิดข้ึนมากมาย และเป็นช่วงเวลาที่มีการปฏิรูป
ในเนเธอรแ์ ลนด ์ มชี า่ งทำ� แวน่ คนหนง่ึ ชอ่ื  Hans Lippershey          ศาสนาด้วย  จากคริสต์ศาสนาที่มีนิกายเดียวโดยมีสันตะปาปาแห่ง
ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ชนิดหน่ึงท่ีสามารถท�ำให้ภาพท่ีเห็น                     วาติกันทรงเป็นประมุข ในปี ๑๕๑๗ Martin Luther นักบวชชาว 
มีขนาดใหญ่ข้ึนถึง ๓ เท่าได้ โดยการน�ำเลนส์นูน ๒ ช้ิน                     เยอรมันกับพรรคพวกได้เรียกร้องให้มีการเปล่ียนแปลงความเป็น 
มาตดิ ทปี่ ลายทอ่ กลวง แตเ่ มอื่  Lippershey น�ำสง่ิ ประดษิ ฐน์ ้ ี      ผนู้ ำ� ทางศาสนาของสนั ตะปาปา  Luther จงึ ถกู เรยี กวา่ พวกโปรเตส- 
ไปขอจดสทิ ธบิ ตั ร เจา้ หนา้ ทกี่ ลบั บอกวา่ มนั มใิ ชส่ งิ่ แปลกใหม่    แตนต์ (protest แปลว่า ประท้วง)  ในที่สุดกษัตริย์ในยุโรปหลาย 
เพราะมคี นรจู้ กั ทำ� อปุ กรณท์ มี่ คี วามสามารถเชน่ นมี้ านานแลว้       พระองค์ทรงเข้าร่วมขบวนการนี้ จนศาสนาใหม่ได้กลายเป็นคริสต์
(ดังนั้นประวัติศาสตร์จึงไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าใครคือบุคคล                 ศาสนาอีกนิกายหน่ึงที่ทรงอิทธิพลมาก  ด้วยเหตุนี้บรรดานักบวช
แรกท่ีประดิษฐ์กล้องส่องทางไกล)  อย่างไรก็ตาม ความ                        และสาธุคุณในโรมจึงเห็นว่าพวกโปรเตสแตนต์เป็นพวกนอกรีต 
อยากรอู้ ยากเหน็ และอยากประดษิ ฐเ์ องไดท้ �ำใหก้ าลเิ ลโอเรม่ิ           สำ� นกั วาตกิ นั จงึ จดั ตงั้ ศาลศาสนาขนึ้ ในเมอื งใหญ่ ๆ โดยใหผ้ พู้ พิ ากษา 
สรา้ งกลอ้ งสอ่ งทางไกล ทงั้  ๆ ทมี่ ปี ระสบการณฝ์ นเลนสน์ อ้ ย          ของศาลศาสนานี้ขึ้นตรงกับโรม และมีหน้าท่ีค้นหาคนที่ต่อต้าน 
แตเ่ ขากไ็ มล่ ะความพยายาม  จนเวลาผา่ นไป ๑ เดอื น กาลเิ ลโอ             คริสต์ศาสนาและความคิดของสันตะปาปา  เมื่อใดก็ตามที่พบ
ก็ได้เลนส์นูนมา ๒ ช้ิน จึงน�ำไปติดท่ีปลายท่อตะกั่ว และ                   คนนอกรีตก็ให้จับคนคนนั้นมาขังคุกแล้วสอบสวน และถ้าพบว่า 
ขยับเล่ือนเลนส์ไปมาจนพบว่ากล้องสามารถท�ำให้เห็น                          ผิดจริงก็ให้ทรมานหรอื ฆ่าจนตายเพือ่ ให้ครสิ ต์ศาสนาไร้การต่อต้าน
                                                                         ใด ๆ  ซ่ึงประเพณีการก�ำจัดศัตรูทางความคิดอย่างรุนแรงเช่นน้ี 
                                                                         มีมานานแล้วในสังคมยุโรป ไม่เพียงแต่ความขัดแย้งในทางศาสนา
                                                                         เทา่ นนั้  แมแ้ ตใ่ นทางวชิ าการกม็  ี ดงั เชน่ ศษิ ยข์ อง Pythagoras ทถ่ี กู
                                                                         อาจารย์ส่งั ฆ่าเพราะพบทฤษฎีทข่ี ดั กับคำ� สอนของอาจารย์

                                                                         ฉบบั ท่ี ๒๙๘ ธนั วาคม ๒๕๕๒  นิตยสารสารคดี 143
   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140