Page 136 - Skd 298-2552-12
P. 136
คนใดในประวัติศาสตร์เคยเห็น เคยพบ หรอื เคยรู้มากอ่ น รอบดาวท่ีระยะห่างต่าง ๆ กัน ดังนั้นดาวพฤหัสบดีก็มีดาว
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. ๑๖๐๙ กาลิเลโอได้เห็นภาพ บรวิ ารซงึ่ เรยี กวา่ ดวงจนั ทรจ์ ำ� นวนมากถงึ ๔ ดวง (กาลเิ ลโอ
เห็นดวงจันทร์ดวงท ่ี ๔ เมอื่ วนั ท ี่ ๑๓ มกราคม ค.ศ. ๑๖๑๐)
ผิวท่ีเป็นรอยกระดำ� กระด่างของดวงจันทร์ทผ่ี ู้คนในสมัยน้ัน และดวงจันทร์เหล่านี้ก�ำลังโคจรรอบดาวพฤหัสบดี หาได้
คิดว่าเกิดจากเมฆบดบัง แต่กาลิเลโอได้พบว่าแท้จริงแล้ว โคจรรอบโลกดังค�ำสอนของปโตเลมีไม่ กาลิเลโอจึงเป็น
รอยคลำ�้ เหลา่ นน้ั เปน็ ภเู ขาและหลมุ มากมาย การศกึ ษาเงา บุคคลแรกที่เหน็ ดวงจันทร์ของต่างดาว
และแสงท่ีเห็นท�ำให้กาลิเลโอรู้ว่ามันเป็นเงาของภูเขาสูง
ดังน้ันผิวของดวงจันทร์จึงตะปุ่มตะป�่ำและเต็มไปด้วยรอย ในตอนแรกทก่ี าลเิ ลโอรายงานการเหน็ ดวงจนั ทรเ์ หลา่ นี้
มลทิน หาได้กลมเกลี้ยงอย่างลูกบิลเลียดดังท่ีกล่าวไว้ใน ไมม่ ใี ครเชอื่ จนเมอ่ื Christopher Clavius ยนื ยนั วา่ ดวงจนั ทร์
ไบเบลิ ไม ่ และนนั่ กห็ มายความวา่ ดวงจนั ทรท์ พี่ ระเจา้ สรา้ ง ทเ่ี หน็ คอื ของจรงิ กาลเิ ลโอจงึ ไดร้ บั การตอ้ นรบั เยย่ี งวรี บรุ ษุ
มีรอยต�ำหนิ พระปรีชาสามารถของพระองค์จึงไม่สมบูรณ์ เมื่อเขาเดินทางไปโรมในปี ๑๖๑๑ และเมื่อพบดวงจันทร์
ดังทีค่ รสิ ต์ศาสนกิ ชนเช่อื แล้ว กาลิเลโอได้ติดตามดูการโคจรของดวงจันทร์ท้ังส ่ี
อีกนาน ๑๘ เดือน จนกระทั่งกลางปี ๑๖๑๒ เขาก็รู้เวลา
ในความเปน็ จรงิ ทอมสั แฮรเ์ รยี ต (Thomas Harriot) ในการโคจรรอบดาวพฤหสั บดขี องดวงจนั ทรแ์ ตล่ ะดวงอยา่ ง
นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้เคยวาดภาพดวงจันทร์ที่เขา หยาบ ๆ
เห็นก่อนกาลิเลโอหลายปี แต่แฮร์เรียตเป็นคนร�่ำรวยที่ม ี
ช่ือเสียงด้านคณิตศาสตร์มาก จึงไม่ต้องการเกียรติยศใด ๆ ในความเปน็ จรงิ Simon Marius (Mayer) นกั ดาราศาสตร์
อกี ดงั นน้ั เขาจงึ ไมเ่ ผยแพรส่ งิ่ ทไ่ี ดเ้ หน็ อกี ทง้ั เมอื่ แฮรเ์ รยี ต ชาวเยอรมัน อ้างว่าได้เห็นดวงจันทร์ทั้งสี่ก่อนกาลิเลโอ
ถูกจับขังเพราะได้เข้าไปพัวพันกับการระเบิดรัฐสภาอังกฤษ แต่เขาไม่ตระหนักในความส�ำคัญของสิ่งท่ีเห็น จึงไม่ได้
ในป ี ๑๖๐๕ ความเปน็ นกั โทษทำ� ใหไ้ มม่ ใี ครเหน็ ความสำ� คญั เผยแพร่หรือรายงานให้นักดาราศาสตร์คนอื่น ๆ รู้ ดังน้ัน
ของภาพที่เขาวาด (ณ วันน้ีภาพดังกล่าวอยู่ที่ London เมอื่ Mayer ไดอ้ า่ นขา่ วการพบดวงจนั ทรใ์ นหนงั สอื Sidereus
Museum of Science) ขณะทก่ี าลเิ ลโอนนั้ ตอ้ งการชอื่ เสยี ง Nuncius (Sidereal Messenger) ที่กาลิเลโอเขียน
มากและต้องการเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว เขาจึงเผยแพร่ ในปี ๑๖๑๐ Mayer ก็รู้ว่าตนพลาดโอกาสในการได้ชื่อว่า
ความรู้ใหม่ท่ีพบทันที ท�ำให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้เห็นความไม่ เป็นผู้พบดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีเป็นคนแรก จะ
สมบรู ณข์ องดาวบนสวรรคเ์ ปน็ คนแรก อกี ทงั้ ความสามารถ อยา่ งไรกต็ ามการอา้ งของ Mayer ในเรอื่ งนท้ี ำ� ใหเ้ ขามกี รณ ี
ในการสเกตช์ภาพของกาลิเลโอก็ท�ำให้ภาพที่เขาสเกตช์นั้น พิพาทกับกาลิเลโอว่าใครคือผู้เห็นดวงจันทร์เหล่านั้นเป็น
ค่อนข้างเหมือนภาพดวงจันทร์ที่เห็นผ่านกล้องโทรทรรศน์ คนแรก ในทสี่ ดุ กาลิเลโอก็มศี ัตรูเพิม่ อีก ๑ คน
ปจั จุบนั มาก
ส�ำหรับช่ือของดวงจันทร์ทั้งส่ีที่กาลิเลโอเห็นนั้น ใน
ในวนั ท ่ี ๗ มกราคม ค.ศ. ๑๖๑๐ กาลเิ ลโอไดใ้ ชก้ ลอ้ ง เบอ้ื งตน้ เขาไดต้ งั้ ชอื่ วา่ Medicean Stars (ดาวแหง่ ตระกลู
โทรทรรศนส์ อ่ งเหน็ จดุ สวา่ ง ๓ จดุ ปรากฏอยใู่ กลด้ าวพฤหสั บด ี Medici) เพื่อเป็นเกียรติแก่ Cosimo II de’ Medici
โดยจุดสว่างทั้งสามนี้เรียงตัวในแนวเส้นตรงเดียวกันกับ ผู้เป็นดยุคแห่งแคว้นทัสคานี กับน้องชายท้ังสามของ
เสน้ ศนู ยส์ ตู รของดาวพฤหสั บด ี จดุ สวา่ งทงั้ สามมขี นาดเลก็ Cosimo ทั้งนี้เพราะกาลิเลโอมีความปรารถนาจะกลับไป
และอยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดีมาก กาลิเลโอตระหนักว่ามันคง ทำ� งานทม่ี หาวทิ ยาลยั ฟลอเรนซซ์ ง่ึ ตง้ั อยใู่ นเขตการปกครอง
เป็นดาวฤกษ์ท่ีไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ต�ำราดาราศาสตร์ ของท่านดยุค ดังนั้นกาลิเลโอจึงหวังว่าเมื่อดยุคได้รับการ
ของอริสโตเติลก็ไม่เคยเอ่ยถึงดาวฤกษ์ทั้งสามเลย กระท่ัง ยกยอ่ งใหช้ อ่ื ของทา่ นเปน็ ชอื่ ของดวงจนั ทร ์ ทา่ นคงสนบั สนนุ
ในวันต่อมาเขาก็ได้เห็นจุดสว่างเพิ่มข้ึนอีกหนึ่งจุด และ กาลิเลโออย่างเต็มท่ีเวลากาลิเลโอจะขอมาท�ำงานท่ี
จุดสว่างเดิมท้ังสามจุดได้เปลี่ยนต�ำแหน่งไป กาลิเลโอจึง มหาวิทยาลัยฟลอเรนซ์ แต่ในเวลาต่อมา Mayer ได้เสนอ
คดิ วา่ การเปลย่ี นตำ� แหนง่ ทำ� ใหม้ นั ไมใ่ ชด่ าวฤกษแ์ น ่ ๆ เมอื่ ให้เรียกช่ือดวงจันทร์ท้ังส่ีว่า Io, Europa, Callisto และ
ถึงวันท่ี ๑๐ มกราคม จุดสว่างจุดหน่ึงได้หายไปอย่างไร้ Ganymede ตามชอ่ื ชูร้ กั ของเทพจูปเิ ตอร์ ณ วนั นี้เรารู้จัก
ร่องรอย เหตุการณ์เหล่านี้ท�ำให้กาลิเลโอสรุปว่า จุดสว่าง ดวงจันทร์ท้ังส่ีในนามดวงจันทร์ของกาลิเลโอ (Galilean
ท่ีเห็นเป็นดาวบริวารของดาวพฤหัสบดีที่ก�ำลังโคจรไป moons) เพ่ือเป็นเกียรติแก่บุคคลผู้เห็นดวงจันทร์เหล่าน ี้
144 นติ ยสารสารคดี ฉบับท่ี ๒๙๘ ธันวาคม ๒๕๕๒